สมาชิกใหม่ ขอคำแนะนำค่ะ

[kkk]

สวัสดีค่ะ..
ต้องบอกว่าเพิ่งเข้ามาอ่านกระทู้นี้ครั้งแรก และรู้ได้ทันทีว่าเป็นประโยชน์มาก ๆ จึงรีบสมัครเป็นสมาชิกทันที

โดยส่วนตัว น้องชายเป็นโรคลมชักค่ะ เพิ่งทราบไม่นานนี้เองว่าเป็น แต่ก่อนเข้าใจมาตลอดว่าน้องเป็นโรคไข้สมองอักเสบ เพราะน้องชายเป็นโรคนี้ตอนอายุเพียง 9 เดือน และก็มีอาการชัก หลังจากนั้นก็เริ่มมีพัฒนาการช้ากว่าเด็กทั่วไป และเมื่อเป็นไข้จะไข้สูงกว่าปกติ เราก็ดูแลกันตามปกติ ทานยา Depakine มาตลอด  ตั้งแต่เด็กจนถึงอายุ 21 มีการชักไปแค่ 3-4 ครั้ง ถือว่าโอเคค่ะ แต่ช่วงเกือบสิบปีหลังซื้อยาทานเองมาตลอด บางวันน้องก็ลืมทาน ก็ไม่ได้เป็นอะไร แต่แล้วอาการชักที่หายไปเป็นสิบ ๆ ปีก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อ เมษายน ปีที่แล้ว ตกใจมากค่ะ พบเค้านอนชัก หัวแตกอยู่ในห้องน้ำ รีบส่งโรงพยาบาลทันที คุณหมอ ให้ admid ทำ CT SCAN เจาะเลือด และบอกว่า Dose ของยากันชักไม่เพียงพอ จึงเริ่มเปลี่ยนยา เป็น Dilantin แต่หลังจากนั้น ตั้งแต่ เมษายนปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ ประมาณ10 เดือน น้องชาย ชักไป 3 ครั้งแล้วค่ะ ล่าสุด เดินห้างอยู่ดี ๆ ตัวแข็งทื่อ ตาเหม่่อ เรียกไม่ได้สติ ปากม่วง และสักพัก คุณแม่จับให้นอน ก็เริ่มกระตุกเกร็งทั้งตัว จึงไปหาหมอ คราวนี้เปลี่ียนโรงพยาบาลค่ะ มีคนแนะนำที่นี่ คุณหมอก็นัดไปทำ MRI และ EMU แล้วก็ให้เปลี่ยนยาอีก คราวนี้เปลี่ยน เป็น cabamazepine เพิ่งเริ่มทานได้เมื่อวานเองค่ะ กังวลว่าเปลี่ยนยาแล้วจะเป็นอะไรมั๊ย เราต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษมากขึ้นรึเปล่าคะ เพราะเมื่อปีที่แล้วตอนที่ไปอีกโรงพยาบาลที่เปลี่ยนยาเป็น Dilantin เค้าจะให้นอนดูอาการอยู่หลายวันเลยค่ะ แต่ที่นี่กลับบ้านได้เลย ฟังจากคุณหมอพูดก็สบายใจว่าการชักไม่ได้อันตรายมากอย่างที่กังวล เค้าชัก ไม่เกิน 3 นาทีก็จะหายเอง แต่อาจจะทำให้สมองช้าลง แต่พอหาข้อมูลในเน็ตมาก ๆ เริ่มวิตกกกังวลค่ะ
เห็นสมาชิกบางท่านเตรียมออกซิเจนเอาไว้ อันนี้ต้องใช้กรณีไหนเหรอคะ และต้องเตรียมรับมือ หรือป้องกันอย่างไรบ้าง

รบกวนผู้มีประสบการณ์แนะนำ ด้วยนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

[Thanks-Epi]

สวัสดีค่ะ
ต่ายเป็นลมชัก ตั้งแต่อายุประมาณ 14-15 ปี เริ่มมาจากเหม่อค่ะ (ไม่ทราบ )จนเป็นลมบ้าหมู เลยได้ส่งรพ. ได้ยาชักมาเรื่อยๆ ปัจจุบันคุมอาการชักได้ค่อนข้างดีแล้ว แต่ยาต้องทานตลอดชีวิตค่ะ
-ผลกระทบของยา ต้องทำใจนะค่ะ เพราะการคุมชักสำคัญกว่ามากค่ะ เรื่องอื่น เป็นอนาคตค่ะ
-อาการชักมีหลายแบบ บางอย่างไม่ทราบ ทำให้ชะล่าใจคิดว่า หายแล้ว ไม่จำเป็นต้องชักเกร็ง ก็ถือว่า ยังคุมชักไม่ได้ค่ะ
-ลืมทานยา ไม่ได้หมายความว่าไม่ชักนะค่ะ ต่ายเคยลืม (พอดีมีเหตุกระตุ้นชักหลายอย่างมาก) อาการไม่ค่อยดีตอนอยู่ข้างนอก (เหมือนพูดไม่ค่อยได้ ฟังไม่ค่อยเข้าใจ) ก็กลับบ้านได้ค่ะ มารู้อีกที คือนอนไม่หลับ เลยทราบว่า ลืมทานยาค่ะ เลยคิดว่า น่าจะเป็นอาการอย่างนึงค่ะ
-การดูแล คงต้องอ่าน ข้อควรระวัง แต่ไม่ได้ต้องดูแลกันแบบ "พิเศษ" สิ่งที่คนไข้รู้สึกคือ เราไม่เหมือนคนอื่น ท้อ ซึมเศร้า ฯลฯ  เพราะฉะนั้น ปฎิบัติกับเขาปกติค่ะ ควรส่งเสริม ในเรื่องการกระตุ้นการใช้สมองมากหน่อย (ถ้าผู้ใหญ่ก็ทำงานนะค่ะ คิดเลขเยอะๆ ต่ายว่าช่วยได้นะ) ให้หัดตัดสินใจเอง พลาดเอง เจ็บเอง (แล้วคนไข้จะรู้จักคำว่า ทำใจ) อย่าห่วงจนเกินไปค่ะ อย่ากังวลแทนคนไข้ ทำให้เขารู้สึกไม่มั่นใจขึ้นไปอีก
-ส่วนถังอ๊อกซิเจน ต้องรอท่านอื่นมาตอบค่ะ

[NONG]

เพิ่มเติมจากคำตอบของคุณต่ายแล้วกัน

อยากให้ตัดสินใจเลือกคุณหมอแล้วไว้ใจให้ดูแลต่อเนื่องดีกว่าเปลี่ยนไปมาบ่อยๆค่ะ สิบปีที่ผ่านมาอาจมีอาการชักสะสมมาตลอดโดยไม่รู้ตัวพอโตขึ้น นน.มากขึ้นกลายเป็นยาไม่พอควบคุมอาการชักทำให้เกิดชักใหญ่ให้เห็น เป็นเรื่องที่ต้องระวังมากถึงแม้คิดว่าไม่มีอาการแต่ควรพบหมอต่อเนื่อง สักสามสี่เดือนครั้งก็ยังดี จนกว่าหมอจะแน่ใจลดยาจนเลิกยาไปแล้วจึงจะถือว่าหายจากโรคลมชัก การวางใจว่าไม่ชักเองอาจทำให้คนไข้มีอาการชักต่อเนื่องมาโดยตลอดได้

เครื่องให้ออกซิเจนใช้ในกรณีที่มีประวัติชักแล้วขาดอากาศ ก็สมควรมีไว้ประจำบ้านตอนชักให้ให้ออกซิเจนช่วยด้วยเพื่อไม่ให้ขาดออกซิเจนนานเกินไป

[kkk]

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ
คำถามเพิ่มเติมคือ การชักทุกครั้งจะทำให้คนชักขาดอากาศหายใจรึเปล่าคะ

[NONG]

ไม่ค่ะ. เป็นบางครั้งและกับการชักบางประเภทเท่านั้น